ทำไมต้องใช้บริการ Outsourced DPO?

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562  หรือ Personal Data Protection Act (PDPA) จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ทำให้ทุก ๆ องค์กรมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้อย่างเคร่งครัด การไม่ปฏิบัติตามหรือการฝ่าฝืนข้อกำหนดของกฎหมายอาจนำไปสู่บทลงโทษโดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ โทษทางแพ่ง โทษทางอาญา และโทษทางปกครอง โดยมีบทลงโทษแตกต่างกันไปเช่น ค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี เป็นต้น และสามารถโดนบทลงโทษทั้ง 3 ประเภทนี้พร้อมกันได้ ซึ่งการที่องค์กรปฏิบัติตาม PDPA ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำเพียงเพราะกฎหมายบังคับ แต่เป็นสิ่งที่ทุกองค์กรควรต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นการช่วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ารวมถึงพนักงานภายในองค์กร เพื่อไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว ถือว่าเป็นการปกป้องเจ้าของข้อมูลนั้น ๆ ให้มีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ดังนั้น PDPA จึงมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้องค์กรที่ปฏิบัติตามมีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ไว้วางใจในบริการขององค์กรมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย ณ ขณะนี้ยังเป็นเรื่องใหม่ และมีรายละเอียดค่อนข้างมาก อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมีจำกัด การที่องค์กรจะสรรหาพนักงานประจำองค์กรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในเรื่องนี้โดยเฉพาะอาจจะเป็นเรื่องยาก และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นการเลือกใช้บริการ Outsourced DPO ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาช่วยดูแลให้คำปรึกษาทั้งข้อกฎหมาย และจัดทำ PDPA แบบครบวงจร จึงเป็นทางเลือกที่ง่าย สะดวก ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีประสิทธิภาพสูงกับองค์กร

เลือกบริการ DPO ที่เหมาะสมสำหรับองค์กรของคุณ

หากองค์กรของท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีความสนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดบริการที่ปรึกษาได้ที่ [email protected] หรือโทร. 02-670-8980 ถึง 3 (จันทร์ – ศุกร์, 09:00น. – 18:00น.)