รายงานความยั่งยืน ESG ตามมาตรฐาน GRI และบทบาทของงานด้าน Cyber security
ในยุคปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิกฤตการณ์ด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับตัว และพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ไม่เพียงแค่การสร้างผลกำไร หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดูแลกิจการอย่างมีคุณภาพ และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ธุรกิจต้องพิจารณาถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกค้า ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับองค์กรต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและรักษาการเติบโตที่ยั่งยืนได้ในระยะยาว
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เป็นแผนงานระดับสากลที่ถูกดำเนินการโดยสหประชาชาติ จากการลงนามร่วมกัน 193 ประเทศสมาชิก ในปี ค.ศ. 2015 เพื่อเป็นทิศทางการพัฒนาที่ทุกประเทศต้องดำเนินการร่วมกันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2016 ไปจนถึงปี ค.ศ. 2030 พันธะสัญญานั้นเรียกว่า “Transforming Our World: the 2030 Agenda for Sustainable Development” หรือ Agenda 2030 มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญต่าง ๆ ของโลก ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านสิทธิมนุษยชน โดยมีจำนวนเป้าหมายทั้งหมด 17 เป้าหมายหลักดังนี้
การนำเอาเป้าหมาย SDGs เป็นใช้เป็นทิศทางในการพัฒนาธุรกิจ ทำให้ในระบบเศรษฐกิจโลกได้มีดัชนีความยั่งยืนเป็นเครื่องมือที่วัดและประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในด้านความยั่งยืน โดยนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มักจะใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจลงทุน เช่น ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI), MSCI Global Sustainability Indexes และองค์กร CDP (Carbon Disclosure Project) ที่ช่วยให้บริษัทและรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ มีการรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม รายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการใช้น้ำ และการทำลายป่าไม้ เป็นต้น สำหรับในประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีการจัดทำ Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือรายชื่อหุ้นยั่งยืน ซึ่งการมีรายชื่ออยู่ในหุ้นยั่งยืนยังแสดงถึงการที่บริษัทเหล่านั้นนำเอาหลักการความยั่งยืนไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน เพื่อจัดการกับความเสี่ยงใหม่ๆ มีการวางแผนรับมือกับปัญหาต่าง ๆ และกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตในระยะยาว
การรายงานความยั่งยืนสนับสนุนเป้าหมาย SDGs อย่างไร
การรายงานความยั่งยืนเป็นกระบวนการที่องค์กรเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ ทั้งผลกระทบด้านบวก และด้านลบ รวมถึงประสิทธิผลของการดำเนินงานในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลองค์กร (ESG) ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การรายงานนี้ช่วยให้องค์กรสามารถประเมินตนเอง และสื่อสารไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียถึงความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติได้
การรายงานความยั่งยืนตามมาตรฐาน GRI (Global Reporting Initiative) เป็นมาตรฐานสากลที่ภาคธุรกิจนิยมใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก GRI เป็นองค์กรอิสระก่อตั้งโดยสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) และเครือข่าย Ceres เป็นแนวทางที่ช่วยให้องค์กรสามารถรายงานผลกระทบด้านความยั่งยืนของตนได้อย่างชัดเจน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการนำมาตรฐาน GRI มาใช้อ้างอิง ซึ่งการรายงานไม่จำเป็นต้องรายงานในทุกประเด็นขององค์กร แต่มุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลในประเด็นการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร และคัดเลือกประเด็นสำคัญของธุรกิจ ส่วนประกอบการรายงานตามมาตรฐาน GRI มีดังนี้
(Source: GRI website)
- หลักการและมาตรฐานการรายงานทั่วไป (Universal Standard) ได้แก่ ข้อมูลบริษัท ภาพรวมของหลักการรายงาน การกำกับดูแลกิจการ กลยุทธ์ นโยบาย แนวปฏิบัติ และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงกระบวนการในการกำหนดหัวข้อสำคัญ (Material Topic) ตามหัวข้อ GRI 101 (Foundation) GRI 102 (General Disclosures) และ GRI 103 (Management Approach)
- มาตรฐานการรายงานภาคอุตสากรรม (Sector Standard) ได้แก่ ประเด็นความยั่งยืนที่เฉพาะเจาะจงในภาคส่วนตามกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น ตามหัวข้อ GRI11 GRI12 GRI13 GRI14 หากองค์กรไม่ได้กำหนดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมใดตาม Sector Standard ให้เลือกรายงานในมาตรฐานหัวข้อเฉพาะ (topic standard) อย่างเดียว
- มาตรฐานหัวข้อเฉพาะ (Topic Standard) ได้แก่ ประเด็นความยั่งยืน ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลักหรือผลกระทบสำคัญขององค์กรนั้น ๆ ได้แก่ ในมิติเศรษฐกิจและธรรมาภิบาลตามแนวปฏิบัติ GRI 200 มิติสิ่งแวดล้อม GRI 300 และมิติสังคม GRI 400
ในการรายงานความยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Cyber security) เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรายงานความยั่งยืนที่ช่วยให้องค์กรสามารถแสดงความโปร่งใส และรับผิดชอบในการจัดการความเสี่ยงทางไซเบอร์ และมีความสำคัญในยุคที่เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจ การใช้มาตรฐาน GRI ช่วยให้องค์กรสามารถเปิดเผยวิธีการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ รวมถึงการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเข้าใจและมั่นใจในมาตรการที่องค์กรใช้ปกป้องข้อมูลและระบบของตนได้ นอกจากนี้องค์กรควรเลือกใช้ตัวชี้วัดที่เหมาะสมภายใต้มาตรฐาน GRI ซึ่งอาจรวมถึงการป้องกันการรั่วไหลข้อมูลส่วนบุคคล การบันทึกเหตุการณ์ความปลอดภัย และการจัดการความเสี่ยงทางไซเบอร์ เพื่อให้การรายงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรวบรวมข้อมูลที่ชัดเจน และการตรวจสอบได้ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่รายงานเป็นปัจจุบัน และมีความถูกต้อง ซึ่งทำให้ข้อมูลในรายงานนั้นมีความน่าเชื่อถือสูง และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการอัพเดตนโยบายและแผนงานเป็นประจำ มีการสื่อสารผลการปฏิบัติงานการจัดการความเสี่ยงทางไซเบอร์ให้ทราบอย่างเปิดเผยในรายงานความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องทุกปี
บริษัท เอซีอินโฟเทค จำกัด ให้บริการที่สนับสนุนและเชื่อมโยงกับการรายงานความยั่งยืนตามมาตรฐาน GRI ในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยข้อมูลและการบริหารความเสี่ยง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่บริษัทในทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญเพื่อการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ดังนี้:
GRI 418 (Customer Privacy):
ACinfotec ให้บริการให้คำปรึกษาด้านมาตรฐาน ISO 27001 และ ISO 27701 ซึ่งเน้นการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและการจัดการความปลอดภัยข้อมูล การใช้มาตรฐานเหล่านี้ในการประกันว่าข้อมูลของลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ถูกจัดการอย่างปลอดภัย มาตรฐานนี้ต้องการให้องค์กรรายงานเกี่ยวกับนโยบาย การปฏิบัติ และผลกระทบที่เกี่ยวกับการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล การนำ ISO 27701 มาใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถประเมิน ควบคุม และรายงานเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การรายงานตาม GRI เป็นไปอย่างครอบคลุมและเชื่อถือได้ รวมทั้งสนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย SDGs เป้าหมายเกี่ยวกับนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน (SDG 9) การลดความเหลื่อมล้ำ (SDG 10) และการสร้างสถาบันที่แข็งแกร่ง (SDG 16)
GRI 203 (Indirect Economic Impacts):
ACinfotec ให้บริการให้คำปรึกษาด้านมาตรฐาน ISO20000 เป็นมาตรฐานสำหรับการจัดการบริการ IT (IT Service Management – ITSM) และ ISO 22301 เป็นมาตรฐานสำหรับการจัดการความต่อเนื่องของธุรกิจ (Business Continuity Management – BCM) ทั้งสองมาตรฐานมีความสำคัญในการสนับสนุนการรายงานความยั่งยืนขององค์กรตามมาตรฐาน GRI 203 ซึ่งเน้นการเปิดเผยผล
กระทบทางเศรษฐกิจทางอ้อมที่องค์กรมีต่อชุมชนและสังคมโดยรอบ โดยการปฏิบัติตาม ISO 20000 ช่วยให้บริการ IT มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ ทำให้บริการด้าน IT มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ทำให้องค์กรสามารถสนับสนุนการพัฒนาท้องถิ่นและช่วยเพิ่มความสามารถทางเศรษฐกิจในชุมชน และ ISO 22301 มุ่งเน้นการจัดการความต่อเนื่องของธุรกิจ เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินการต่อเมื่อเกิดเหตุการณ์ขัดข้อง การมีระบบการจัดการที่ดีเป็นสัญญาณถึงความมั่นคงขององค์กร ส่งผลให้ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเชื่อมั่นในความสามารถขององค์กรในการรอดพ้นจากวิกฤตในทุกสถานการณ์
GRI 205 (Anti-corruption):
ACinfotec ให้บริการให้คำปรึกษาด้านการกำกับดูแลข้อมูล (Data Governance) ซึ่งช่วยสนับสนุนรายงานความยั่งยืนในประเด็น GRI 205 มาตรฐานการต่อต้านการคอร์รัปชัน มุ่งเน้นไปที่การรายงานวิธีการ และขั้นตอนที่องค์กรใช้เพื่อป้องกัน และตอบโต้การทุจริตในทุกรูปแบบ การกำกับดูแลข้อมูลมีบทบาทสำคัญในด้านการตรวจสอบ และรายงาน ซึ่งการมีระบบการกำกับดูแลข้อมูลที่ดีช่วยให้องค์กรสามารถเก็บรวบรวม จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่อต้านการคอร์รัปชันได้อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงข้อมูลการฝึกอบรม รายงานข้อร้องเรียน และผลการตรวจสอบภายใน รวมถึงช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ใช้ในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายต่าง ๆ เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ช่วยสนับสนุนให้มีการตัดสินใจที่ดีขึ้นในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การวางแผนกลยุทธ์หรือการปรับปรุงนโยบาย เป็นต้น มีการรายงานการกระทำที่อาจเป็นการคอร์รัปชัน และมีการจัดการกับเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างเหมาะสม
บริษัท เอซีอินโฟเทค จำกัด มีบทบาทเป็นผู้นำในการให้บริการให้คำปรึกษา และฝึกอบรม ด้านการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจต่าง ๆ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในการให้คำแนะนำแก่องค์กรชั้นนำในทุกภาคส่วน วิธีการให้คำปรึกษาของบริษัทฯ ใช้กระบวนการที่พัฒนาจากการมีส่วนร่วมกับลูกค้าหลายราย มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถนำมาตรการไปใช้อย่างเหมาะสมได้โดยไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ ทำให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงแก่องค์กร บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านมาตรฐาน ISO 27000 Series นอกจากนี้ ACinfotec ยังให้บริการการทดสอบการเจาะระบบ การประเมินความปลอดภัย การจัดการเหตุการณ์ความมั่นคงปลอดภัย การวิเคราะห์มัลแวร์ การวิเคราะห์การบุกรุก การให้คำปรึกษาด้านธรรมาภิบาลข้อมูล รวมถึงการจัดทำและบริหารการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องและการบริหาร IT ตามมาตรฐาน ISO 22301 และ ISO 20000 อีกด้วย ดังนั้นการให้บริการของบริษัทฯ สามารถนำไปใช้ในการรายงานความยั่งยืน เพื่อช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรลูกค้า สร้างความไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม และสร้างความมั่นคงในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจในระยะยาวอย่างยั่งยืน
บริการให้คำปรึกษา และจัดทำ รายงานความยั่งยืน ESG ตามมาตรฐาน GRI จาก ACinfotec จะช่วยให้องค์กรของท่านสามารถเชื่อมโยงรายงานความยั่งยืนตามมาตรฐาน GRI ในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยข้อมูลและการบริหารความเสี่ยง
ติดต่อ ACinfotec เพื่อรับคำปรึกษาและบริการจากที่ปรึกษามืออาชีพ
- โทรศัพท์: 02 670 8980-3
- อีเมล: [email protected]
- เว็บไซต์: https://www.acinfotec.com/
Reference:
https://sdgs.un.org/goalst (un.org)
https://setsustainability.com//libraries/628/item/315-gri-standards
https://www.globalreporting.org/standards/
https://www.bsigroup.com/th-TH/blog/climate-change-ISO-27001-certified/