นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
Privacy Policy

บริษัท เอซีอินโฟเทค จำกัด
เวอร์ชัน 2.0 วันที่ 30 พฤษภาคม 2565

บริษัท เอซีอินโฟเทค จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักและให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและให้ความเคารพต่อสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทมีหน้าที่ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตลอดจนกฎหมายและกฎระเบียบอื่น ๆ ที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขหรือจัดทำขึ้นใหม่และมีผลบังคับใช้ในประเทศไทย จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น

ขอบเขตของนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีปฏิบัติของบริษัทในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทของข้อมูลที่บริษัทอาจจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้ทราบ มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล วิธีที่ท่านสามารถเข้าถึงและขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้จัดเก็บไว้ รวมถึงวิธีที่ท่านอาจร้องเรียนหากเห็นว่าบริษัทกระทำการขัดต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

นโยบายฉบับนี้ใช้กับ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ที่มีการเก็บรวบรวมและเกี่ยวข้องกับบุคคลแต่ละราย ได้แก่ พนักงาน ผู้สมัครงาน ผู้ที่เคยเป็นพนักงาน บุคคลที่อยู่ในความดูแล หรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ หรือมีความเกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและ/หรือพนักงาน ซึ่งผู้สมัครและ/หรือพนักงานระบุชื่อให้แก่บริษัท ลูกค้า คู่ค้า ผู้รับจ้าง บริษัทพันธมิตร ผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัท และบุคคลที่กระทำการแทนบุคคลข้างต้น รวมถึงบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องและบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว ช่องทางที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย เอกสาร เว็บไซต์ของบริษัท แอปพลิเคชัน อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่บริษัทจัดให้มีขึ้น และช่องทางของบุคคลภายนอกที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้

นโยบายฉบับนี้ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือข้อตกลงใด ๆ เว้นแต่บริษัทจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาหรือขอตกลง

1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่

ข้อมูลส่วนบุคคล (ทั่วไป) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีชีวิตอยู่ที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ email address หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

2. ข้อมูลประเภทใดบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน

บริษัทเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคล”เท่าที่จำเป็นตามสมควร สำหรับการดำเนินกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มคน 5 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่

2.1) กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน หมายถึง พนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว นักศึกษาฝึกงาน ผู้สมัครงาน บุคคลที่อยู่ในความดูแล หรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ หรือมีความเกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและ/หรือพนักงาน ซึ่งผู้สมัครและ/หรือพนักงานระบุชื่อให้แก่บริษัท บุคคลที่กระทำการแทนพนักงาน และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องและบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว (รวมเรียกว่า “พนักงานและผู้สมัครงาน”)

2.2) กลุ่ม Stakeholders หมายถึง ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และกรรมการของบริษัท

2.3) กลุ่มคู่ค้า ผู้รับจ้าง และพันธมิตร หมายถึง คู่ค่า ผู้ร่วมธุรกิจ ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง ตัวแทน ผู้ขายสินค้า และผู้ให้บริการอื่น ๆ

2.4) กลุ่มลูกค้า หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่บริษัทติดต่อเพื่อเสนอขายหรือให้บริการ ทั้งก่อนเข้าทำสัญญา หรือภายหลังจากมีสัญญาซื้อขาย สัญญาการให้บริการ หรือสัญญาอื่นใด ในลักษณะดังกล่าว

2.5) กลุ่มบุคคลภายนอกอื่น หมายถึง ผู้สนับสนุน สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง บุคลากร และผู้แทนอื่น ๆ ของบุคคลหรือนิติบุคคลที่บริษัทติดต่อด้วย

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรมที่มีกับบริษัท  สถานที่และวิธีการที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน

  • ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือรายละเอียดของสถานที่ติดต่ออื่น เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเดือนปีเกิด เลขที่ บัตรประจําตัวประชาชน/หนังสือเดินทาง ข้อมูลระบุทรัพย์สินของท่าน เช่น ทะเบียนรถยนต์ รายละเอียดบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแลของท่าน ข้อมูลการเดินทาง เช่น การขอวีซ่า กําหนดการเดินทาง ข้อมูลเที่ยวบิน และยังรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เช่น ความเชื่อทางศาสนา ข้อมูลที่เกี่ยวกับสภาวะ สุขภาพทางร่างกาย ประวัติอาชญากรรม การกระทําการ (หรือการถูกกล่าวหาว่ากระทําการ) ที่เป็นความผิด หรือเกี่ยวข้องกับการดําเนินคดี หรือข้อมูลอื่นใดในลักษณะเดียวกัน และข้อมูลทางชีวมิติ เช่น รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทํางานของท่าน เช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ผลการทดสอบทางวิชาการหรือภาษา หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิง
  • รายละเอียดการทํางานพื้นฐาน เช่น รายละเอียดการติดต่อสถานที่ทํางานของท่าน หมายเลขพนักงาน ตําแหน่งงาน รายละเอียดของงาน สายการบังคับบัญชา ชั่วโมงการทํางาน ระเบียบและเงื่อนไขของการจ้างงาน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานของท่าน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน และหลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าจ้าง เช่น รายละเอียดการจ่ายเงินเดือนและผลประโยชน์อื่น ๆ ประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับการเกษียณอายุ/บํานาญ กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ ข้อมูลทางภาษี ข้อมูลที่เกี่ยวกับสหกรณ์ออมทรัพย์ และข้อมูลของบุคคลภายนอกผู้ได้รับผลประโยชน์
  • ประวัติเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการทํางาน รวมถึง การประเมินผลการทํางาน ความเห็นของบริษัทต่อการทํางานของพนักงาน ผลตอบรับ ข้อมูลเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับการทํางานหรือการร้องทุกข์ ประวัติวันหยุดประจําปี ประวัติการลาป่วยหรือขาดงาน ประวัติข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทํางานในสถานประกอบการและความปลอดภัยรวมถึงการตรวจสอบและการประเมินความเสี่ยง
  • ข้อมูลภาพหรือเสียงของพนักงาน หากต้องมีการบันทึกเพื่อการดําเนินการกระบวนการทางวินัยเพื่อบันทึกเป็นหลักฐานการสอบสวน
  • ข้อมูลด้านกฎหมายและประวัติอาชญากรรม ในกรณีที่มีการกําหนดให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และในบางสถานการณ์โดยเฉพาะ

กลุ่ม Stakeholders

  • ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ หรือรายละเอียดของสถานที่ติดต่ออื่น เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส วันเดือนปีเกิด เลขที่ บัตรประจําตัวประชาชน/หนังสือเดินทาง ข้อมูลระบุทรัพย์สินของท่าน เช่น ทะเบียนรถยนต์ รายละเอียดบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในกลุ่ม Stakeholders เช่น คู่สมรส บุตร ผู้ติดต่อหรือบุคคลที่ติดต่อในกรณีเร่งด่วน ผู้ค้ำประกัน หรือผู้ให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลและ/หรือผู้จัดการมรดก บิดามารดาและ/หรือผู้แทนโดยชอบธรรม ข้อมูลของผู้รับมอบอํานาจรวมถึงผู้รับมอบอํานาจทอดสุดท้าย ผู้รับผลประโยชน์

กลุ่มคู่ค้า ผู้รับจ้าง และพันธมิตร

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประจําตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่น ๆ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ รูปถ่าย รูปเคลื่อนไหว ข้อมูลทางชีวภาพ และเสียงที่บันทึก ไว้ และข้อมูลอื่นใดที่ใช้ในการพิจารณาความเสี่ยงในสถานการณ์การเกิดโรคระบาด
  • ข้อมูลสุขภาพและประวัติอาชญากรรมของผู้แทนที่ส่งมาให้บริการแก่บริษัท รายละเอียดเกี่ยวกับการขาย หรือให้บริการโดยท่าน (ขึ้นอยู่กับลักษณะการบริการ)
  • ข้อมูลการชําระเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร รายละเอียดบัญชีธนาคาร การเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เลขที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต รวมถึงชื่อผู้ถือบัตร (ถ้ามี)
  • กรณีที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทที่มีไว้สําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใด ๆ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี คุกกี้ รวมถึงข้อมูลสถานที่และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่ท่านใช้

กลุ่มลูกค้า

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประจําตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่น ๆ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ รูปถ่าย รูปเคลื่อนไหว ข้อมูลทางชีวภาพ และเสียงที่บันทึก ไว้ และข้อมูลอื่นใดที่ใช้ในการพิจารณาความเสี่ยงในสถานการณ์การเกิดโรคระบาด
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินและผลลัพธ์จากการประเมินความรู้ การสอบ การตอบแบบสอบถาม รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อใช้ในการขอใบประกาศนียบัตร หรือต่ออายุประกาศนียบัตรหลักสูตรต่าง ๆ
  • ข้อมูลการชําระเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร รายละเอียดบัญชีธนาคาร การเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เลขที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต รวมถึงชื่อผู้ถือบัตร (ถ้ามี)
  • กรณีที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทที่มีไว้สําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใด ๆ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี คุกกี้ รวมถึงข้อมูลสถานที่และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่ท่านใช้

กลุ่มบุคคลภายนอกอื่น

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประจําตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่เพื่อจัดส่งไปรษณีย์ และรายละเอียดข้อมูลติดต่ออื่น ๆ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ รูปถ่าย รูปเคลื่อนไหว ข้อมูลทางชีวภาพ และเสียงที่บันทึก ไว้ และข้อมูลอื่นใดที่ใช้ในการพิจารณาความเสี่ยงในสถานการณ์การเกิดโรคระบาด
  • ข้อมูลการชําระเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร รายละเอียดบัญชีธนาคาร การเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เลขที่บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต รวมถึงชื่อผู้ถือบัตร (ถ้ามี)
  • กรณีที่ท่านใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทที่มีไว้สําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใด ๆ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิค เช่น ที่อยู่ไอพี คุกกี้ รวมถึงข้อมูลสถานที่และอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่ท่านใช้

การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นเรื่องที่กระทําโดยสมัครใจท่ านอาจเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลที่บริษัทร้องขอ แต่การไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถจัดหาสินค้าหรือบริการบางอย่างให้แก่ท่านได้

ข้อมูลบางอย่างที่บริษัทเก็บรวบรวมอาจเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” บริษัทมุ่งหมายที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวจากท่านเฉพาะในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้ง และเท่าที่จําเป็นต้องใช้ตามสมควร ยกเว้นกรณีที่บริษัทกระทําการตามที่กฎหมายกําหนดในการดําเนินกิจการของบริษัท หรือในกรณีที่กฎหมาย หรือศาล หรือหน่วยงานของรัฐมีคําสั่งให้เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือในกรณีที่ท่านได้จงใจเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณชนแล้วเท่านั้น และมุ่งหมายที่จะแบ่งปันข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่บริษัทเห็นว่าจําเป็นต้องมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเท่านั้น เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
  • เพื่อการดําเนินกิจกรรมโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีการคุ้มครองที่เหมาะสมของมูลนิธิ สมาคม หรือ องค์กรที่ไม่แสวงหากําไรที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเมือง ศาสนา ปรัชญา หรือสหภาพแรงงานให้แก่สมาชิก
  • เพราะเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน
  • เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • เพื่อความจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การประเมิน ความสามารถในการทํางานของลูกจ้าง การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สําคัญอื่น ๆ

3. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

โดยทั่วไป บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงเช่น ใบสมัครงาน (Application Form) หรือเอกสารใด ๆ เพื่อเป็นบุคลากรหรือกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท เอกสารหรือระบบการลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการหรือผู้ขายสินค้าให้แก่บริษัท ช่องทางการกรอกข้อมูลผ่านระบบของบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงการแจ้งต่อบริษัทไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ทางวาจา เช่น ทางโทรศัพท์หรือ Video / E-Meeting / Virtual conference ช่องทางการ รับส่งข้อมูลผ่านทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน รวมถึงได้รับข้อมูลผ่าน แอปพลิเคชันสําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริษัทหรือบริษัทใด ๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทําหรือจัดให้มีขึ้น

บริษัท ไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ยกเว้นในกรณีที่มีการให้ข้อมูลเอง หรือข้อมูลทางเทคนิค ตามที่กล่าวไว้ในนโยบายฉบับนี้

ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท โดยท่านอาจมีความเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวโดยตรงหรือไม่ก็ได้ เช่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก

  • นายจ้างของท่าน หากบุคคลดังกล่าวให้ข้อมูลติดต่อของท่าน
  • บริษัทจัดหางาน (Recruitment Agency) หรือ เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการหางานหรือสมัครงาน
  • หน่วยงานที่ท่านเป็นสมาชิก
  • การแนะนำโดยของพนักงานของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ ทางอีเมล หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ
  • โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่น ๆ หรือผู้แทนของบุคคลดังกล่าว
  • ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ
  • ผู้รับจ้าง ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการ
  • ผู้แทนของท่าน และ
  • แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ รายการข้อมูลติดต่อสําหรับการส่งจดหมายและการทําการตลาดที่เปิดเผยต่อสาธารณะและจัดทําขึ้นเพื่อการค้าทั้งของภาคเอกชน สมาคมการค้าใด ๆ และ/หรือหน่วยงานของรัฐ เช่น เว็บไซต์ต่าง ๆ รวมถึง Social Media อื่น ๆ เช่น Facebook LinkedIn ฯลฯ

4. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มต่าง ๆ ตามข้อ 2. และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพียงเท่าที่จำเป็น  และอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริษัทสามารถดําเนินกิจการของตนได้ โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

กลุ่มพนักงานและผู้สมัครงาน

  • เพื่อการบริหารและจัดการพนักงานและธุรกิจตลอดจนการประกอบกิจการของบริษัท
  • เพื่อการจัดการงานด้านทรัพยากรบุคคล เช่น การช่วยเหลือพนักงานในการปรับตัวเข้ากับงานใหม่ (onboarding) การวางแผนและการดําเนินการเกี่ยวกับการจ้างพนักงานและการฝึกอบรม การเลื่อนขั้น การย้ายงาน การมอบหมายให้พนักงานไปทํางานที่อื่น การวางแผนกําลังคน เป็นต้น
  • เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของพนักงานเมื่อเข้าใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และเพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท
  • เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจเพื่อช่วยบริษัทในการประกอบธุรกิจของตน เช่น การนําเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ลูกค้า หรือคู่ค้า เพื่อการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือ บริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม หรือทําการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาดและทําการสํารวจผู้บริโภค เพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และการจัดให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อ รักษาความมั่นคงปลอดภัย
  • เพื่อปฏิบัติตามกระบวนการ กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ หรือตามคําสั่งศาล เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง สัญญา หรือ นโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวของกับธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
  • เพื่อให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัทและกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
  • เพื่อการปฏิบัติตามข้อกําหนดการจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย ผลประโยชน์ ค่าตอบแทน รางวัล ข้อเสนอในอนาคต
  • เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างงานรายเดือนหรือรายวัน
  • เพื่อการติดต่อสื่อสารภายใน การแจ้งการนัดหมายแก่บุคคลทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล หรือ ไปรษณีย์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่นแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ สามารถใช้ในการติดต่อได้ หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อเป็นการสื่อสารให้พนักงานทราบ
  • เพื่อการประเมินใบสมัครงานสําหรับโอกาสในงานใหม่และการตัดสินใจในการจ้างงาน รวมถึงการประเมินการเลื่อนตําแหน่ง
  • เพื่อการทําแบบสํารวจ สถิติของรัฐบาล หรือ การตอบแบบฟอร์มคําร้องใด ๆ ของรัฐ ไม่ว่าด้วยเหตุใด
  • เพื่อการตรวจสอบข้อมูลของท่านตามกฎหมาย ข้อมูลทางกายภาพ หรือความสามารถในการทํางานของท่าน
  • เพื่อการตรวจสอบข้อร้องเรียนและประเด็นของการประพฤติตัวไม่เหมาะสม หรือ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางวินัย
  • เพื่อใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัททั้งภายในและภายนอก
  • เพื่อจัดทําบันทึกข้อมูลลูกจ้าง การทําประกัน ประวัติทางการแพทย์และแผนประกัน
  • เพื่อการตรวจสอบการอ้างอิงและประวัติโดยพนักงานใด ๆ ของบริษัท หรือบุคคลอื่น การหลีกเลี่ยง การขัดกันของผลประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยงแนวโน้มที่จะเกิดการขัดกันของผลประโยชน์ การปฏิบัติตามข้อกําหนดข้อบังคับ
  • เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ และการดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงานตามที่กฎหมายกําหนด หรือ ตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
  • เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชีและการสอบบัญชีของบริษัท หรือการติดตามทวงหนี้ กรณีที่พนักงานมีหนี้ต่อบริษัท
  • เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดําเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทําที่มิชอบด้วยกฎหมายหรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สวัสดิภาพ สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
  • เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่บริษัท
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทําธุรกรรมของบริษัท ซึ่งเป็นผลทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจของบริษัท เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
  • เพื่อการดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สํารอง หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อการดําเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น และ
  • เพื่อการดําเนินการอื่น ๆ ที่จําเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น

กลุ่ม Stakeholders

  • เพื่อการบริหารและจัดการพนักงานและธุรกิจตลอดจนการประกอบกิจการของบริษัท
  • เพื่อประโยชน์ในการยืนยันหรือระบุตัวตนของผู้ถือหุ้น กรรมการ กรรมการอิสระ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับกลุ่มคนดังกล่าวเช่น คู่สมรส บุตร ผู้ติดต่อหรือบุคคลที่ติดต่อในกรณีเร่งด่วน ผู้ค้ำประกัน หรือผู้ให้ความยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลและ/หรือผู้จัดการมรดก บิดามารดา และ/หรือผู้แทนโดยชอบธรรม ข้อมูลของผู้รับมอบอํานาจรวมถึงผู้รับมอบอํานาจทอดสุดท้าย ผู้รับผลประโยชน์
  • เพื่อประโยชน์อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจเพื่อช่วยบริษัทในการประกอบธุรกิจของตน และการบริหารขององค์กร เช่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทําวาระการประชุมเพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการ หรือการประชุมหรือการจัดการภายในขององค์กร รวมถึงการจัดกิจกรรม ต่าง ๆ ขององค์กร โดยให้ Stakeholders เข้าร่วม และการประเมินความพึงพอใจภายหลังจากการเข้าร่วมกิจกรรม
  • เพื่อปฏิบัติตามกระบวนการ กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับ หรือตามคําสั่งศาล เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง สัญญา หรือ นโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวของกับธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
  • เพื่อให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อบังคับของบริษัทและกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
  • เพื่อการปฏิบัติตามข้อกําหนดการจ่ายค่าจ้าง ค่าชดเชย ผลประโยชน์ ค่าตอบแทน รางวัล ข้อเสนอในอนาคต
  • เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างงานรายเดือนหรือรายวัน
  • เพื่อการติดต่อสื่อสารภายใน การแจ้งการนัดหมายแก่บุคคลทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ อีเมล หรือ ไปรษณีย์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่นแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ สามารถใช้ในการติดต่อได้ หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อเป็นการสื่อสารให้พนักงานทราบ
  • เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชีและการสอบบัญชีของบริษัท หรือการติดตามทวงหนี้ กรณีที่ Stakeholders มีหนี้ต่อบริษัท
  • เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ และการดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงานตามที่กฎหมายกําหนด หรือ ตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
  • เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่บริษัท
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างองค์กร และการทําธุรกรรมของบริษัท ซึ่งเป็นผลทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจของบริษัท เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
  • เพื่อการดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สํารอง หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อการดําเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น และ
  • เพื่อการดําเนินการอื่น ๆ ที่จําเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น

กลุ่มคู่ค้า ผู้รับจ้าง และพันธมิตร

  • เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการทําความรู้จัก ยืนยันตัวตน ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลใด ๆ ที่ท่านให้กับบริษัท
  • เพื่อการติดตามการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อการเข้าทําสัญญาระหว่างท่านและบริษัท
  • เพื่อปฏิบัติตาม ขั้นตอนกระบวนการ จัดการ ทําให้แล้วสําเร็จ และ ทําให้เกิดผลซึ่งข้อร้องขอ หรือธุรกรรมที่ระบุในเอกสารนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านอาจส่งให้กับบริษัทเป็นครั้งคราว เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงใดๆ ที่ อาจมีต่อการประกอบธุรกิจของบริษัท การชําระค่าสินค้าและบริการแก่ท่าน และการปรับปรุงแก้ไข ยกเลิกสัญญา การบังคับคดีอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
  • เพื่อการรับสินค้าหรือบริการจากท่าน การใช้สิทธิใด ๆ ภายใต้สัญญาที่ท่านมีต่อบริษัท หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับบริการและ/หรือสินค้า เพื่อรับบริการสนับสนุนหรือรับความช่วยเหลือในการจัดการบริการและ/หรือสินค้า หรือติดต่อท่านเมื่อมีข้อสอบถาม
  • การติดต่อสื่อสารกับท่าน ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับ สินค้าหรือบัญชีใด ๆ ที่ท่านอาจมีกับบริษัท การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายฉบับนี้ในอนาคต
  • เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การจัดทําใบแจ้งหนี้ การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน การยืนยันคําสั่งซื้อรวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท
  • เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดําเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวงกรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อ ได้ว่าเป็นการกระทําที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สวัสดิภาพ สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
  • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอื่นที่บริษัทเห็นว่าผู้แทนจําหน่าย ซัพพลายเออร์ หรือผู้แทน อาจสนใจ (ซึ่งผู้แทนจําหน่าย ซัพพลายเออร์ หรือผู้แทนสามารถแจ้งบริษัทได้ทุกเมื่อหากไม่ต้องการได้รับข้อมูลประเภทนี้)
  • เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่บริษัท
  • เพื่อการทําธุรกรรมของบริษัท ซึ่งเป็นผลทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจของบริษัท
  • เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจของบริษัท เช่น เพื่อใช้ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ การ ส่งเสริมการขาย หรือการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม เพื่อ ฃจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาด หรือทําการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทําการสํารวจผู้บริโภคเพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัย
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
  • เพื่อการดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สํารอง หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง สัญญา หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่กํากับดูแลธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
  • เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศ หรือเขตการปกครองใดๆ และ การดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และ ข้อกําหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านคุณภาพและการฝึกอบรม
  • เพื่อการดําเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น และ
  • เพื่อการดําเนินการอื่น ๆ ที่จําเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น

กลุ่มลูกค้า

  • เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการทําความรู้จัก ยืนยันตัวตน ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลใด ๆ ที่ท่านให้กับบริษัท เพื่อเสนอ ขาย จัดให้ บริหารจัดการ ดําเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้าง และจัดการเกี่ยวกับสินค้าและบริการเพื่อใช้ในการติดต่อเพื่อตอบรับคําสั่งซื้อของท่านและจัดส่งสินค้าตามคําสั่งซื้อของท่าน หรือให้บริการแก่ท่าน
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อการเข้าทําสัญญาระหว่างท่านและบริษัท เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ จัดการ ทําให้สําเร็จ และ ทําให้เกิดผลซึ่งข้อร้องขอ หรือธุรกรรมที่ระบุในเอกสารนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านอาจส่งให้กับบริษัทเป็นครั้งคราว เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงใดๆ ที่อาจมีต่อ การประกอบธุรกิจของบริษัท การเก็บเงินค้างชําระจากท่าน และการปรับปรุงแก้ไข ยกเลิกสัญญา การ ติดตามทวงถามหนี้ การบังคับคดีอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
  • ในกรณีที่ท่านเป็นผู้แทนของลูกค้า เพื่อจัดให้บริการและ/หรือสินค้าของบริษัทแก่ท่าน เพื่อการให้หรือรับบริการ รับประกันสินค้า ติดตั้ง ซ่อมแซมสินค้า ให้คําแนะนําหรือคําปรึกษาเกี่ยวกับสินค้า และ บริการของบริษัทให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า เพื่อให้บริการสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือในการจัดการบริการและ/หรือสินค้า
  • เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับ สินค้าหรือบัญชีใด ๆ ที่ท่านอาจมีกับบริษัท การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายฉบับนี้ในอนาคต
  • เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การจัดทําใบแจ้งหนี้ การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน การยืนยันคําสั่งซื้อรวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท
  • เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดําเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมี เหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของ ประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทําที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สวัสดิภาพ สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
  • เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่บริษัท
  • เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจของบริษัท เช่น เพื่อใช้ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ การ ส่งเสริมการขาย หรือการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม เพื่อ ฃจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาด หรือทําการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทําการสํารวจผู้บริโภคเพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัย
  • เพื่อการทําธุรกรรมของบริษัท ซึ่งเป็นผลทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกโอนหรือเปิดเผย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อหรือขายธุรกิจ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอซื้อหรือเสนอขายธุรกิจของบริษัท
  • เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจของบริษัท เช่น เพื่อใช้ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ การ ส่งเสริมการขาย หรือการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม เพื่อ ฃจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาด หรือทําการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทําการสํารวจผู้บริโภคเพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัย
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
  • เพื่อการดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สํารอง หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง สัญญา หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่กํากับดูแลธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
  • เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศ หรือเขตการปกครองใดๆ และ การดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และ ข้อกําหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านคุณภาพและการฝึกอบรม
  • เพื่อการประเมินความรู้ การทดสอบ การขอใบประกาศนียบัตร หรือต่ออายุประกาศนียบัตรหลักสูตรต่าง ๆ
  • เพื่อการดําเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น และ
  • เพื่อการดําเนินการอื่น ๆ ที่จําเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น

กลุ่มบุคคลภายนอกอื่น

  • เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร เพื่อการทําความรู้จัก ยืนยันตัวตน ยืนยันความถูกต้องของข้อมูลใดๆ ที่ท่านให้กับบริษัท
  • เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกับท่าน ซึ่งรวมถึงการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบัญชีใด ๆ ที่ท่านอาจมีกับบริษัท การให้การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัท หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จะมีขึ้นต่อนโยบายฉบับนี้ในอนาคต
  • เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชําระเงิน การจัดทําใบแจ้งหนี้ การเรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน การยืนยันคําสั่งซื้อรวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี และการสอบบัญชีของบริษัท
  • เพื่อการตรวจสอบ ป้องกัน หรือการดําเนินการเกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ป้องกันความเสี่ยง กรณีมี เหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีการฉ้อโกงหลอกลวง กรณีการฟอกเงิน กรณีที่มีผลต่อความมั่นคงของ ประเทศ กรณีที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าเป็นการกระทําที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต สวัสดิภาพ สุขภาพ หรือร่างกายของบุคคลอื่น
  • เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่บริษัท
  • เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจของบริษัท เช่น เพื่อใช้ในการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ การ ส่งเสริมการขาย หรือการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงสินค้าหรือบริการ เพื่อจัดการฝึกอบรม เพื่อ ฃจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการตลาด หรือทําการวิเคราะห์เชิงสถิติหรือการวิเคราะห์ตลาด และทําการสํารวจผู้บริโภคเพื่อจัดการระบบสารสนเทศ ทดสอบ พัฒนา และคงให้มีระบบและมาตรการควบคุมเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัย
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งการตรวจสอบภายในและภายนอก)
  • เพื่อการดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดภายใต้นโยบายภายในของบริษัทที่ยึดถือปฏิบัติ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ บันทึก สํารอง หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง สัญญา หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกําหนดขึ้นโดยหน่วยงานกํากับดูแลของรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือหน่วยงานที่กํากับดูแลธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าหน่วยงานใดก็ตาม
  • เพื่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมาย การสืบสวนโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตํารวจ หรือโดยหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศ หรือเขตการปกครองใดๆ และ การดําเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และ ข้อกําหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแลอื่น ๆ ในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในด้านคุณภาพและการฝึกอบรม
  • เพื่อการดําเนินการด้านการจัดการทั่วไปอันเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ข้างต้น และ
  • เพื่อการดําเนินการอื่น ๆ ที่จําเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น

หากบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสําหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด บริษัทมุ่งหมายที่จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นในขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ๆ

5. บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อผู้อื่นในกรณีใดและอย่างไร

บริษัทไม่ได้ขายข้อมูลส่วนบุคคล แต่บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกในลักษณะข้อมูลนิรนาม หรือในลักษณะข้อมูลรวมที่ไม่สามารถระบุหรือทราบตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

บริษัทมุ่งหมายให้การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจํากัดอยู่เพียงเพื่อวัตถุประสงค์แต่เดิมที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อการดําเนินการทางธุรกิจและการบริหารจัดการของบริษัท รวมถึงกรณีที่จําเป็นต้องเปิดเผยเพื่อจัดให้มีสินค้าหรือบริการตามที่ท่านร้องขอ หรือตามข้อตกลง/สัญญาให้แก่ท่าน เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดําเนินกิจการ หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ดังรายละเอียดข้างต้น

นอกจากนี้ ในบางครั้งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานภายนอกบริษัท เพื่อ วัตถุประสงค์เดียวกับที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในกรณีที่จําเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นเพื่อจัดให้มีสินค้า บริการ หรือกิจกรรมให้แก่ท่านตามที่ท่านร้องขอ หรือตามข้อตกลง/สัญญาให้แก่ท่าน เพื่อช่วยเหลือบริษัทในการดําเนินกิจการของบริษัท หรือเพื่อเหตุผลด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัย หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย

บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลต่อไปนี้

  • บริษัทในเครือของ บริษัท เอซีอินโฟเทค จำกัด ไม่ว่าจะอยู่ ณ ประเทศใดในโลก
  • ผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล บริษัทในกลุ่มในเครือของผู้ถือหุ้น
  • ผู้จัดงาน ผู้ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และผู้สนับสนุนงานอีเวนท์หรือนิทรรศการ
  • โรงแรมหรือผู้ให้บริการสถานที่จัดงานอื่น ๆ และผู้แทนของบุคคลดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนท์หรือนิทรรศการ
  • ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ และซัพพลายเออร์และตัวแทนลักษณะอื่น ๆ ที่ดําเนินการในนามของบริษัทหรือถูกว่าจ้างโดยบริษัท เช่น หน่วยงานที่จัดให้สินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนท์ บริการด้านการธนาคารหรือการเงิน บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชั่นหรือระบบสารสนเทศคลาวด์หรือเครือข่ายข้อมูล บริการลงทะเบียนเข้าร่วมงานอีเวนท์ บริการการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ บริการ รักษาความมั่นคงปลอดภัย บริการสอบบัญชี บริการด้านกฎหมาย บริการประกันภัย บริการวิจัยตลาดและ บริการจัดการอีเมลหรือไปรษณีย์ และผู้แทนและตัวแทนที่ขายหรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการในนามของบริษัท บริการจัดการประมูลสินค้า บริการฝึกอบรม บริการตรวจสอบ ประเมิน ทดสอบ หรือฝึกซ้อมความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ หน่วยงานออกใบรับรองหรือประกาศนียบัตรสำหรับบุคคลหรือองค์กร ทั้งนี้ หน่วยงานเหล่านี้บางรายอาจไม่อยู่ในประเทศไทย และในประเทศนั้นอาจไม่มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับในประเทศ หรือมี แต่ไม่เพียงพอหรือได้มาตรฐานเทียบเท่ากับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
  • บุคคลใดก็ตามที่ท่านให้ความยินยอมในการรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • ผู้ที่ซื้อหรือขาย หรือจะซื้อหรือจะขาย หากบริษัทขายธุรกิจหรือกิจการของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วน การควบรวมกิจการ หรือเข้าซื้อธุรกิจหรือบริษัทอื่น
  • บุคคลใดหรือหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย ตามคําสั่งศาล หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีอํานาจตามกฎหมาย
  • หน่วยงานกํากับดูแล หรือหน่วยงานของรัฐ หรือองค์การเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ในการดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัทตามกฎหมาย ซึ่งกําหนดให้บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้ทราบ
  • หน่วยงานที่จัดตั้งในต่างประเทศ เพื่อธุรกรรมทางการเงินระหว่างท่านและบริษัท กรณีที่ท่านมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ ทั้งกรณีชั่วคราวและถาวร

ท่านยินยอมและรับทราบว่า บริษัทอาจว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดําเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเพื่อพัฒนา หรือบํารุงรักษาระบบของบริษัท ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทจะควบคุมและวางมาตรการเพื่อให้บุคคลภายนอกนั้นทําการเก็บรักษา ใช้เฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ ดําเนินการเพื่อให้บุคคลภายนอกปฏิบัติตามข้อกําหนดและเงื่อนไขด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด

6. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

6.1) บริษัทให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกลไกและเทคนิคที่เหมาะสมเพียงพอตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงมีกระบวนการจัดการกับกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่ต้องสงสัย และแจ้งเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

ภาพรวมของมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท มีดังนี้

  • กําหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือยืนยันตัวบุคคล ผู้เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามนโยบายของบริษัทอย่างเคร่งครัด
  • กําหนดวิธีการเข้ารหัสข้อมูลที่ปลอดภัยสําหรับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทําลาย ใช้เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  • ในการส่งการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก หรือยังต่างประเทศ รวมถึงการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด การเก็บรักษาข้อมูลต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรการตามนโยบายนี้
  • กรณีที่บริษัทมีการจ้างหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวกับการดําเนินการจัดเก็บเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บริษัทรับฝากเอกสารต่างๆ ที่บริษัทได้ใช้บริการ บริษัทจะกําหนดให้หน่วยงานที่ถูกว่าจ้างในการดําเนินการดังกล่าวจัดเก็บข้อมูลเป็นความลับเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและห้ามมิให้มีการนําเอกสารดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากการดําเนินงานของบริษัทเท่านั้น

6.2) ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีความสัมพันธ์กับท่าน เช่น ตลอดระยะเวลาที่มีการซื้อขายสินค้าหรือบริการของบริษัท และเมื่อท่านยุติความสัมพันธ์กับบริษัทแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่จําเป็นเพื่อการดําเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปไม่เกินระยะเวลา 10 ปีนับแต่การติดต่อครั้งสุดท้ายหรือจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านและบริษัทจะสิ้นสุดลง เว้นแต่บริษัทมีความจําเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปนานกว่า 10 ปี หรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทําได้

บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้บนเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และบริษัทอาจมีการโอนข้อมูลไปนอกประเทศไทยเพื่อให้บรรลุประสงค์ตามที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

7. เว็บไซต์ คุกกี้ บันทึกการใช้งานระบบ และกล้องวงจรปิด

เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในหน้าที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ของบริษัทจะบันทึกการเยี่ยมชมนั้นและเก็บข้อมูลต่อไปนี้

  • ที่อยู่ไอพี (IP) ของท่าน (ซึ่งฃ หมายถึงข้อมูลเฉพาะที่กําหนดขึ้นสําหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านเมื่อมีการเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต)
  • คําค้นหาที่ใช้
  • ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ที่ท่านกําลังใช้ และ
  • ข้อมูลที่ท่านดาวน์โหลด (เช่น หน้าเว็บ หรือไฟล์เอกสารหรือซอฟต์แวร์อื่น) และเวลาที่ทําการดาวน์โหลด

ข้อมูลข้างต้นนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสถิติเท่านั้น เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถทราบได้ว่าส่วนใดของเว็บไซต์ของบริษัทที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเยี่ยมชมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้บริษัททราบได้ว่าจะปรับปรุงบริการของบริษัทได้อย่างไร

หากท่านติดต่อบริษัท ลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ใด ๆ ของบริษัท หรือส่งอีเมลถึงบริษัท บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดําเนินการตามที่ท่านขอหรือเพื่อตอบข้อสอบถามของท่านเท่านั้น นอกจากนี้ หากท่านให้ความยินยอมตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกําหนด บริษัทอาจเพิ่มที่อยู่อีเมลของท่านไว้ในรายการข้อมูลติดต่อ สําหรับการส่งจดหมายของบริษัท อย่างไรก็ดี ท่านสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้หากท่านไม่ต้องการรับข้อมูล เกี่ยวกับบริษัท งานอีเวนท์ การส่งเสริมการขาย สินค้าและ/หรือบริการของบริษัทอีกต่อไป

คุกกี้ (Cookies)

บริษัทใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาการทำงานของเว็บไซต์ และจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านเพื่อช่วยให้บริษัทสามารถจัดการบริการให้ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และช่วยให้บริการมีความสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากขึ้น ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและวิเคราะห์จะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อของท่าน เช่น ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ และภาษาที่เลือกใช้ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ และไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้งานรายใด ๆ ได้ ท่าน สามารถปรับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้ไม่ให้ตรวจหาคุกกี้หรือเพื่อปิดการใช้งานคุกกี้ได้หากท่านต้องการ

สิ่งสําคัญคือท่านต้องป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่านและเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน โดยไม่ได้รับอนุญาต และท่านควรออกจากระบบทุกครั้งหากท่านเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น

บันทึกการใช้งานระบบ (Log files)

บริษัทอาจดําเนินการบันทึกการเข้าถึงระบบ การใช้งานระบบหรือแอปพลิเคชัน หรือการเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Log Files) โดยเก็บบันทึกการเข้าออกแบบอัตโนมัติ รวมถึงที่อยู่ IP, รายงานข้อผิดพลาด, กิจกรรมของระบบ ตลอดจนวัน เวลา และ URL ของผู้ใช้ โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวกับข้อมูลซึ่งระบุตัวบุคคลได้ พร้อมทั้งจัดเก็บบันทึกตามระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด

กล้องวงจรปิด

บริษัทใช้กล้องวงจรปิดในการบันทึกภาพของบุคคลในสถานที่ของบริษัท เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยสาธารณะและเพื่อการป้องกันและตรวจจับอาชญากรรม กล้องวงจรปิดของบริษัทตรวจสอบประตูทางเข้าออก โถงทางเข้า พื้นที่ต้อนรับลูกค้า พื้นที่ปฏิบัติงาน และพื้นที่หวงห้ามอื่น ๆ ของบริษัทตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีการบันทึกและเขียนทับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง ตําแหน่งกล้องถูกเลือกเพื่อลดการจับภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ที่ถูกต้องสําหรับการตรวจสอบ การดูภาพถ่ายหรือภาพวีดีโอย้อนหลัง รวมถึงภาพสด (Live feeds) จากกล้องวงจรปิดจะดำเนินการเฉพาะในกรณีที่จําเป็นโดยผู้มีอํานาจของบริษัทหรือพนักงานของบริษัทที่ผ่านการอนุมัติเท่านั้น

เว็บไซต์อื่น ๆ

เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่ดําเนินการโดยบุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่ง ในกรณีดังกล่า บริษัทไม่ใช่ผู้ควบคุมเว็บไซต์เหล่านั้น และไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของผู้ดําเนินการเว็บไซต์เหล่านั้นในเรื่องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

นอกจากนี้ บริษัทอาจจัดการ หรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อบุคคลภายนอก รวมถึงการจัดการหรือจัดให้มีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อลูกค้า สําหรับนิทรรศการหรืองานอีเวนท์ของลูกค้า เว็บไซต์เหล่านี้เป็นของลูกค้า คู่ค้า หรือผู้รับจ้างของบริษัท หรือบุคคลภายนอกรายอื่น และแอปพลิเคชันสําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ดังกล่าวจัดทําสําหรับนิทรรศการของลูกค้าหรือบุคคลอื่นเท่านั้น และบริษัท ไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของลูกค้าและบุคคลอื่นดังกล่าวในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

ก่อนที่ท่านจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนเว็บไซต์ที่มีลิงค์ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท หรือเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสําหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใด ๆ ที่จัดการหรือจัดให้มีโดยบริษัทเพื่อบุคคลภายนอกหรือเพื่อลูกค้า บริษัทขอแนะนําให้ท่านอ่านนโยบายเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนข้อกําหนดและเงื่อนไขในการใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันนั้นก่อน

ผู้เยาว์

บริษัทไม่อาจทราบอายุของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทได้ หากท่านเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของผู้เยาว์ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนแก่บริษัทโดยที่ท่านไม่ทราบและไม่ได้ให้ความยินยอม ท่านอาจติดต่อบริษัทและขอให้บริษัทลบข้อมูลนั้นได้ตามนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

8. การให้ความยินยอม

ตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับอนุญาต เมื่อท่านใช้หรือเข้าถึงเว็บไซต์ใด ๆ ของบริษัท หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท จะถือว่า

  • ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ วิธีการ และรายละเอียดอื่นใดตามที่ระบุข้างต้น (ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้เป็นครั้งคราว) เว้นแต่และจนกว่าท่านจะแจ้งเพิกถอนความยินยอมนั้นต่อบริษัท ท่านอาจขอเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้โดยการแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือว่าท่านขอเพิกถอนความยินยอม ทั้งนี้ บริษัทอาจไม่ดําเนินการตามคําขอของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายอนุญาต หรือเป็นการดำเนินการตามกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับ
  • ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกและบริษัทอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ วิธีการ และรายละเอียดอื่นใดตามที่ระบุข้างต้น ทั้งนี้ ท่านอาจขอเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้โดยการแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือว่าท่านขอเพิกถอนความยินยอม

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นก่อน และท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นแล้ว หรือมีสิทธิโดยประการอื่นที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท จะถือว่าท่านให้คํา รบประกันว่าบุคคลนั้นทราบและให้ความยินยอมตามข้อกําหนดของนโยบายฉบับนี้แล้ว

หากกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกําหนดให้ต้องได้รับความยินยอมเพิ่มเติม บริษัทหรือผู้ให้บริการแก่บริษัทรายใด ๆ ที่เป็นบุคคลภายนอก จะดําเนินการให้ได้รับความยินยอมจากท่านสําหรับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น

ท่านมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัท เพื่อให้บริษัทสามารถดําเนินการตามคําขอของท่านหรือจัดให้มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านขอรับให้แก่ท่านได้ การที่ท่านไม่อนุญาตให้เก็บรวบรวม ใช้ ประมวลผล โอน หรือ เปิดเผยข้อมูลบุคคลบางประเภทตามที่บริษัทได้แจ้งหรือร้องขอ อาจทําให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้ หรือไม่สามารถประกอบธุรกิจหรือดําเนินการทางธุรกรรมกับท่านได้

9. สิทธิของท่าน

9.1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้เว้นแต่กฎหมายจะได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว

9.2) สิทธิในการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทําให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้

9.3) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทํางานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกําหนด

9.4) สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดําเนินการตามคําขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

9.5) สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว สิทธิในการจํากัดการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้บริษัทจํากัดการประมวลผลข้อมูล โดยผู้ควบคุมข้อมูลสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปได้ แต่ไม่สามารถนําไปประมวลผลข้อมูลได้อีกต่อไป เว้นแต่พนักงานจะให้ความยินยอมหรือได้รับการยกเว้นตามที่กฎหมายกําหนด

9.6) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดําเนินการตามคําขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคําขอเป็นลายลักษณ์อักษร เว้นแต่กฎหมายจะกําหนดไว้เป็นอย่างอื่น

9.7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดําเนินการปรับปรุงให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัทจะดําเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน

9.8) สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่กํากับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

10. การทบทวนและปรับปรุงนโยบาย

บริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท ท่านควรตรวจสอบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นระยะ ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบหากมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งข้อมูลโดยการแสดงข้อความว่ามีการปรับปรุงนโยบายใหม่บนเว็บไซต์ของบริษัทเป็นเวลา 30 วัน และบริษัทอาจขอความยินยอมจากท่าน (หากจําเป็น)

ช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO)

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือต้องการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อได้ที่อีเมล: [email protected]